กำหนดนัดพิจารณาคดีที่น่าสนใจของศาลปกครอง
ระหว่างวันที่ 6 - 9 มิถุนายน 2566
สำนักงานศาลปกครองขอแจ้งกำหนดนัดพิจารณาคดีที่น่าสนใจของศาลปกครอง ระหว่างวันที่ 6 - 9 มิถุนายน 2566 ดังนี้
- วันพุธที่ 7 มิถุนายน 2566 เวลา 14.00 น. ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ 531/2565 คดีหมายเลขแดงที่ 1071/2565 ระหว่าง สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย (ผู้ฟ้องคดี) กับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ (คำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา)
(คดีนี้ผู้ฟ้องคดี ฟ้องว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีจัดซื้อยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) มาใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด-19) ทั้งที่มีผลการวิจัยระบุว่า มีประสิทธิภาพด้อยกว่ายาฟ้าทะลายโจรผู้ฟ้องคดีเห็นว่า การดำเนินการดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายต่อสุขภาพของประชาชนและเกิดความเสียหายต่องบประมาณแผ่นดิน จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาลปกครอง)
ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องนี้ไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ เนื่องจากศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า กรณีที่ผู้ฟ้องคดีมีคำขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ระงับการจัดซื้อจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ เมื่อผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่มีหน้าที่และอำนาจในด้านการสาธารณสุข จัดหาและบริหารจัดการเกี่ยวกับเวชภัณฑ์เพื่อป้องกันและบรรเทาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวมถึงการจัดซื้อยาฟาวิพิราเวียร์ในผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสดังกล่าว อันเป็นข้อพิพาทที่ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้างในคดีนี้ กรณีจึงเป็นการดำเนินการโดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และโดยที่มาตรา 16 แห่งพระราชกำหนดดังกล่าว บัญญัติให้บรรดาข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง หรือการกระทำตามพระราชกำหนดนี้ ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ดังนั้น คำฟ้องในข้อหานี้จึงไม่อยู่ในอำนาจตรวจสอบของศาลปกครอง ส่วนกรณีมีคำขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่พิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลข้างเคียงของผู้ป่วยที่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ และให้กำหนดมาตรการหรือกลไกที่ชัดเจนเกี่ยวกับการชดเชยดูแลค่าเสียหายที่เกิดจากการป่วยและการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ให้เผยแพร่ข้อมูลให้บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนทราบเกี่ยวกับข้อจำกัดของหลักฐานด้านประสิทธิภาพของยาฟาวิพิราเวียร์ในการรักษาโรคโควิด-19 และให้กำหนดมาตรการที่ชัดเจนในการส่งเสริมการใช้ฟ้าทะลายโจร เมื่อคำขอดังกล่าวเป็นเรื่องการวิจัยทางการแพทย์ในเรื่องการใช้ยารักษาโรคโควิด-19 ซึ่งต้องศึกษาและทำการวิจัย การจะให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่มีมาตรการที่ชัดเจนในการส่งเสริมการใช้สมุนไพรไทย “ฟ้าทะลายโจร” อย่างจริงจังและให้มีประสิทธิภาพในสถานพยาบาลและหรือบุคลากรทางการแพทย์ของรัฐ-เอกชน จึงต้องกระทำโดยบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งมีความรู้เชี่ยวชาญด้านยาโดยเฉพาะ ประกอบกับการศึกษาวิจัยทางการแพทย์กรณีนี้ต้องอนุมัติเงินงบประมาณแผ่นดินเพื่อสนับสนุนโครงการดังกล่าวด้วย อันเป็นเรื่องนโยบายการบริหารราชการของรัฐบาล ศาลปกครองจึงไม่อาจก้าวล่วงไปพิจารณาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวภายในเวลาที่ศาลกำหนดได้ ดังนั้น คำฟ้องในข้อหาที่สองจึงเป็นกรณีที่ศาลไม่อาจออกคำบังคับตามที่กำหนดในมาตรา 72 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ผู้ฟ้องคดีจึงไม่มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครอง ตามมาตรา 42 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว
ผู้ฟ้องคดีจึงยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองชั้นต้นต่อศาลปกครองสูงสุด
ณ ห้องพิจารณาคดี 6 ชั้น 3 อาคารศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร
สำนักงานศาลปกครอง 2 มิถุนายน 2566